“สู่ผลของการถูกชำระให้ชอบธรรมด้วยความเชื่อ”

Lent  •  Sermon  •  Submitted   •  Presented   •  48:57
0 ratings
· 109 views
Files
Notes
Transcript
“สู่ผลของการถูกชำระให้ชอบธรรมด้วยความเชื่อ”
ยอห์น 4:7-30, 39-42
คริสตจักรแองลิกัน ลาดกระบัง / คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2023
[Slide 1]
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
พี่น้องที่รักครับ เรายังอยู่ในพระกิตติคุณยอห์น นะครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ยอห์นบทที่ 3 เราได้เรียนรู้จากบทสนทนาระหว่างพระเยซูคริสต์กับนิโคเดมัสในเวลากลางคืน การบังเกิดใหม่จากเบื้องบน เข้าสู่ความชอบธรรมด้วยความเชื่อ เป็นการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชำระเราด้วยด้วยน้ำและพระวิญญาณ พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานความเชื่อให้กับเรา เมื่อเราได้ยินข่าวประเสริฐ เนื้อหนังก็เป็นส่วนของเนื้อหนัง เรื่องฝ่ายวิญญาณก็เป็นฝ่ายวิญญาณ
เช้านี้เราเข้าอีกบทหนึ่ง ยอห์นบทที่ 4 เช้า/ บ่ายนี้เราจะเข้ามาเรียนรู้จากอีกหนึ่งบทสนทนาระหว่างพระเยซูคริสต์กับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ ไม่ใช่เวลากลางคืนเหมือนนิโคเดมัส แต่เป็นเวลาเที่ยงวัน เวลาที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาตักน้ำในบ่อ ส่วนใหญ่ไม่ช่วงเช้าก็เป็นเวลาเย็น และไม่มาคนเดียวแบบผู้หญิงคนนี่แน่ๆ
แต่ก็ที่เราจะฟังคำเทศนาให้เราร่วมใจกันอธิษฐานรับพระคำพระเจ้าด้วยกันครับ
“พระเจ้าผู้ทรงพระคุณ โปรดประทานหัวใจที่ถ่อม ยินดีรับการสอน และใจที่เชื่อฟัง ในขณะที่ลูกรับการเปิดเผยและสำแดงจากพระคำของพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอทรงประทานกำลังที่ลูกจะสามารถกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดง ให้เป็นจริงในชีวิตของลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
คำเทศนาในเช้า/ บ่ายวันนี้ หลังจากเราบังเกิดใหม่จากเบื้องบน ที่เกิดจากน้ำและพระวิญญาณ ไม่ใช่เกิดจากเนื้อหนัง (เพราะไม่มีพระเยซูอยู่ในนั้น) ในยอห์นบทที่ 4 นี้ พูดถึงกระบวนการขั้นตอนเมื่อพบพระเยซู
[Slide 2]
พี่น้องที่รักครับ พระเยซูเลือกที่จะเดินทางกลับไปที่กาลิลี ที่อยู่ทางตอนเหนือโดยเดินทางผ่านสะมาเรีย
(ตามเส้นประสีแดง) พระเยซูเดินทางเข้ามาถึงเมืองสิคาร์ก็เหน็ดเหนื่อยก็มานั่งพักเหนื่อยอยู่ที่ข้างบ่อน้ำ
ปกติยิวที่เคร่งครัดเคร่งศาสนา เขาจะไม่เดินเข้าไปสะมาเรียครับ เขาจะเดินเรียบแม่น้ำจอร์แดน (ตามเส้นประสีน้ำเงินเข้ม) ขึ้นไปที่กาลิลีที่อยู่ทางเหนือ จะไม่ยอมเดินเข้าไปที่สะมาเรีย เพราะพวกยิวรังเกียจชาวสะมาเรีย เพราะช่วงที่สะมาเรียถูกอัสซีเรียยึดครองก็นำชนชาติรอบๆเข้ามาแต่งงานด้วย ทำให้สะมาเรียไม่ได้นมัสการพระยาห์เวห์อย่างเดียว นมัสการพระอื่นด้วย และเชื้อสายก็ไม่ได้เป็นยิวแท้แล้ว เป็นลูกผสม
ช่วงที่เนหะมีย์กลับมาสร้างกำแพงเมือง ตอนที่ยิวสามารถกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน ก็ถูกชาวสะมาเรียนี้แหละครับ ก่อกวน พยายามไม่ให้สร้างสำเร็จ นำโดยสันบาลลัท (เนหะมีย์ 4) ยิวก็เลยยิ่งเกลียดพวกสะมาเรียเข้าไปใหญ่
แต่ในยอห์นบทที่ 4 พระเยซูไม่ได้รังเกียจชาวสะมาเรีย พระองค์ทรงติดตามหาสะมาเรีย คนที่คนยิวเยียด และที่สำคัญพระเยซูมาหาคนที่เป็นผู้หญิง ในสังคมที่ในเวลานั้น ผู้ชายเป็นใหญ่ ปกติ รับไบชาวยิวจะไม่พูดกับผู้หญิงในที่สาธารณะ
พระเยซูทรงตั้งใจเสด็จมาเพื่อนำประกาศแผ่นดินพระเจ้ากับชาวสะมาเรียผ่านคนนี้หญิงที่มาตักน้ำคนเดียวตอนเที่ยง เธอที่มีสามีมาแล้ว 5 คน และคนที่อยู่ด้วยปัจจุบันไม่ใช่สามีของเธอ ผู้หญิงที่ดูเหมือนมีชีวิตที่น่าสงสัย แปลกๆ ไม่เหมือนผู้หญิงปกติๆในเวลานั้น จึงไม่แปลกที่เธอมาคนเดียว เธอเลือกที่จะหลีกเลี่ยงที่จะพบกับพวกผู้หญิงคนอื่นๆในหมู่บ้าน ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน เธออาจเป็นโรคซึมเศร้า ก็ได้นะ เธออาจจะมีอดีตที่เป็น Trauma กระทบกระเทือนใจอย่างแรง เธออาจจะอับอายอดีตของเธอ และชีวิตทางเพศที่ดูเหมือนจะเป็นที่ตั้งคำถามสำหรับคนในชุมชน
แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นทั้งสะมาเรีย ผู้หญิง และเป็นผู้หญิงที่ชีวิตน่าจะเป็นที่สงสัยและตั้งคำถามคนในชุมชน พระเยซูก็เสด็จมาตามหาเธอ และปรารถนาจะให้เธอได้เข้าส่วนในความสัมพันธ์กับพระองค์
[Slide 3]
ประการที่ 1 ครับ “เข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้า” (ข้อ 7-10)
(1) “เข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์” (ข้อ 7-10)
[Slide 4-5]
“7มีหญิงชาวสะมาเรียคนหนึ่งมาตักน้ำ พระเยซูตรัสกับนางว่า “ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง” 8ขณะนั้นสาวกของพระองค์เข้าไปซื้ออาหารในเมือง 9หญิงชาวสะมาเรียทูลพระองค์ว่า “ทำไมท่านซึ่งเป็นคนยิวจึงมาขอน้ำดื่มจากดิฉันซึ่งเป็นหญิงชาวสะมาเรีย?” (เพราะพวกยิวไม่คบหาพวกสะมาเรียเลย) 10พระเยซูตรัสตอบนางว่า “ถ้าเธอรู้จักของที่พระเจ้าประทาน และรู้จักผู้ที่พูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ”
พี่น้องที่รักครับ ความเมตตาความรักของพระเจ้า พระเจ้าปรารถนาที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์ร่วมกับเรา
พระเจ้าต้องการให้เราแบ่งปันชีวิตความรักร่วมกับพระองค์
ความรักความเมตตาของพระเยซูคริสต์ เอาชนะอคติทั้งสิ้น ไม่ว่าสะมาเรียที่เป็นที่รังเกียจของยิว เพศหญิง และอดีตของเธอ
หนึ่งในภาพความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ในพระคัมภีร์คือ การแต่งงาน
พระเจ้าต้องการแต่งงานกับเรา
[Slide 6]
อิสยาห์ 54: 5
“5เพราะพระผู้สร้างเจ้าเป็นสามีเจ้า
พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมทัพ
และองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้ไถ่ของเจ้า
เขาเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าของสากลโลก”
[Slide 7]
อยากที่เคยบอกพี่น้องครับ อ่านยอห์น นอกจากอ่านตามเนื้อหาตามตัวอักษรแล้ว ยอห์นยังซ่อนสัญลักษณ์ไว้ในพระกิตติคุณด้วยครับ ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับเรื่องราวในพันธสัญญาเดิม เวลาพูดถึงฉากที่ บ่อน้ำ ต้องนึกถึง การดูตัว บ่อน้ำ เป็นสัญลักษณ์ถึง ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่การแต่งงาน ในพระคัมภีร์ด้วยนะครับ
คนรับใช้อับราฮัม หาภรรยาให้อิสอัค ก็พบเรเบคาห์ที่บ่อน้ำ ครับ และเป็นฉากเดียวกันครับ ขอน้ำจากบ่อน้ำให้ตนเอง
ปฐมกาล 24: 16-21
“16หญิงสาวนั้นงามมาก เป็นพรหมจารี ยังไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายใด เธอลงไปที่น้ำพุเติมน้ำเต็มเหยือกแล้วก็ขึ้นมา 17คนใช้นั้นก็วิ่งไปพบเธอ แล้วพูดว่า “ขอน้ำจากเหยือกน้ำของเธอให้ฉันดื่มสักหน่อย” 18เธอตอบว่า “นายของดิฉัน เชิญดื่มเถิด” แล้วเธอก็รีบลดเหยือกของเธอลงมาถือไว้ และให้เขาดื่ม 19เมื่อให้เขาดื่มเสร็จแล้ว เธอจึงว่า “ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย” 20เธอรีบเทน้ำในเหยือกของเธอใส่ราง แล้ววิ่งไปตักน้ำที่บ่ออีก เธอตักน้ำให้อูฐทั้งหมดของเขา 21ชายนั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ เพื่อตรึกตรองดูว่าพระยาห์เวห์ทรงให้การเดินทางของเขาสำเร็จหรือไม่”
หญิงโสดคนไหน ถ้ามีหนุ่มคนไหนมาขอน้ำจากเรา ไม่แน่นะเขากำลังมองๆเราอยู่
อีกตัวอย่างหนึ่งครับ ยาโคบพบรัก กับนางราเชลก็ที่บ่อน้ำ ครับ
ปฐมกาล 29: 9-12
“9เมื่อยาโคบกำลังพูดอยู่กับเขา ราเชลก็มาถึงพร้อมกับฝูงแพะแกะของบิดา เพราะเธอเป็นผู้เลี้ยงพวกมัน 10เมื่อยาโคบแลเห็นราเชลบุตรีของลาบันพี่ชายมารดาของเขาและฝูงแพะแกะของลาบันพี่ชายมารดาของเขา ก็เข้าไปใกล้ กลิ้งหินออกจากปากบ่อน้ำ เอาน้ำให้ฝูงแพะแกะของลาบันพี่ชายมารดาของเขากิน 11ยาโคบจูบราเชลแล้วร้องไห้เสียงดัง 12ยาโคบบอกราเชลว่าเขาเป็นญาติของบิดาเธอ และเป็นบุตรชายของนางเรเบคาห์ เธอก็วิ่งไปบอกบิดาของเธอ”
อีกตัวอย่างนะครับ โมเสส ครับ ตอนที่หนีคดีฆ่าคนตายจากอียิปต์ เข้าไปในมีเดียน
อพยพ 3:15-17
“15เมื่อฟาโรห์ทรงทราบเรื่องก็หาช่องทางประหารโมเสส แต่โมเสสหนีฟาโรห์ไปอยู่ในแผ่นดินมีเดียน เขานั่งลงที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง 16ปุโรหิตของคนมีเดียนมีบุตรหญิงเจ็ดคน หญิงเหล่านั้นพากันมาตักน้ำใส่รางให้ฝูงแพะแกะของบิดากิน 17เวลานั้นมีพวกคนเลี้ยงแกะมาไล่หญิงเหล่านั้น โมเสสจึงลุกขึ้นช่วยพวกนาง และให้สัตว์ของพวกนางกินน้ำ”
พระเยซูที่บ่อน้ำกับหญิงสะมาเรีย ก็ให้ภาพเดียวกันครับ อิสยาห์
อิสยาห์ 54: 5
“5เพราะพระผู้สร้างเจ้าเป็นสามีเจ้า
พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมทัพ
และองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้ไถ่ของเจ้า
เขาเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าของสากลโลก”
[Slide 8]
พระเจ้าต้องการให้เราเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระองค์
“ด้วยความรักเมตตาของพระเจ้า พระเยซูปรารถนาที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์ร่วมกับเรา พระเยซูต้องการให้เราแบ่งปันชีวิตความรักร่วมกับพระองค์”
วิวรณ์ บอกว่า คริสตจักรเป็นเจ้าสาวของพระคริสต์
เซนต์ออกัสติน บอกว่า หญิงสะมาเรียที่บ่อน้ำ ก็คือ คริสตจักร
เธอตั้งคำถามพระเยซูว่า พระองค์เป็นยิว ทำไมถึงมาขอน้ำดื่อจากเธอที่เป็นสะมาเรีย
10พระเยซูตรัสตอบนางว่า “ถ้าเธอรู้จักของที่พระเจ้าประทาน และรู้จักผู้ที่พูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ”
พระเยซู ขอน้ำดื่มจากเธอ เพื่อที่พระองค์จะบอกกับเธอว่า พระองค์ทรงสามารถจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ น้ำที่บ่อน้ำจากยาโคบนี้ให้กับเธอและชาวสะมาเรียทั้งหมู่บ้านไม่ได้
ธรรมชาติของเราไม่แสวงหาพระเจ้า ธรรมชาติความบาปของเราวิ่งหนีออกจากพระเจ้า
ธรรมชาติของเรา เรามีบ่อน้ำของเราอยู่แล้ว บ่อน้ำนี้ที่ชาวสะมาเรียทั้งหมู่บ้านอาศัย ซึ่งก็รวมถึงหญิงคนนี้ด้วย พวกเขาและรวมถึงเราด้วย ต่างกระหายน้ำ และต้องการบางอย่างเพื่อมาดับกระหายในชีวิตของเรา เราไม่ได้แสวงหาพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นบ่อน้ำแห่งชีวิตที่แท้จริง ที่เราดื่มแล้วจะไม่กระหายอีก น้ำดำรงชีวิต
เราทุกคนต่างกระหายน้ำ - โธมัส อไควนัส – เราเห็นผู้คนรอบตัวเราแสวงหาสันติสุข สิ่งที่สามารถเติมเต็มความรู้สึกผิดในจิตวิญญาณ พวกเขาแสวงสิ่งที่พระเจ้าสามารถทำให้กับเขาได้ แต่กระนั้นก็ตามพวกเขาต้องการวิ่งหนีจากพระองค์ พวกเขาไม่ได้ต้องการแสวงหาพระเจ้า พระองค์เอง
หญิงคนนี้ กระหายน้ำ กระหายบางอย่างที่สามารถตอบสนองความต้องการลึกๆในจิตใจของเธอ เธอแสวงหาความสุข ชีวิตของเธอโดดเดี่ยว ขาดความสุข ไม่มีคนที่เข้าใจ
พี่น้องที่รักครับ ผมคิดว่าคำถามที่สำคัญสำหรับเรา คือ อะไรคือบ่อน้ำในชีวิตของเรา น้ำที่เรามาแทนที่น้ำดำรงชีวิตของพระคริสต์ บ่อน้ำที่เราต้องกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะน้ำจากบ่อน้ำนั้นดับกระหายเราได้เพียงชั่วคราว เดี๋ยวเราก็ต้องกลับมาอีก
พระเยซูเสนอพระองค์เอง ให้กับหญิงสะมาเรียคนนี้ เมื่อกลับมาหาพระองค์ เข้ามาในความสัมพันธ์กับพระองค์ หญิงคนนี้จะไม่ต้องกลับมาตักน้ำที่บ่อน้ำนี้อีก
บ่อน้ำของหญิงคนนี้คือ บ่อน้ำที่ยาโคบขุดให้ แล้วบ่อน้ำในชีวิตของเราคืออะไร
เงิน ความสำเร็จ ความรักที่ฉาบฉวย ความรักที่เราไปพึ่งพิงกับบางคน
บางคนขาดเงิน ขาดความสุขในชีวิต ขาดความอบอุ่นในชีวิต ขาดความรัก โหยหาความสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา พี่น้องที่รักครับ วันนี้พระเยซูอยู่ที่นี่ครับ นั่งอยู่บนบ่อน้ำของเรา และพระองค์กำลังเสนอพระองค์เอง ให้แทนที่บ่อน้ำที่เดี๋ยวเราก็ต้องกลับมาอีก ไม่เคยให้ความสุขที่แท้จริงกับเราได้
พระองค์นั่งที่บ่อน้ำของเราครับ และกำลังพูดกับเราว่า
“ถ้าเธอรู้จักของที่พระเจ้าประทาน และรู้จักผู้ที่พูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ”
สำหรับคริสเตียนครับ เรามาที่คริสตจักรด้วยเหตุผลอะไรครับ บางคนรับใช้พระเจ้าด้วยเหตุผลอะไรครับ เราทำพันธกิจด้วยเหตุผลอะไรครับ อย่าให้เราสายตาสั้นฝ่ายวิญญาณเพียงแค่ต้องการบ่อน้ำที่ดับกระหายเราได้เพียงชั่วคราวนะครับ
การนมัสการยุคนี้ ต้องดูว่าคำเทศนาต้องเป็นอย่างไร ต้องมีจิตวิทยา และคนที่มาต้องการบางอย่างกลับไป นี่คือความจริงหรือเปล่าตามพระคัมภีร์ เป็นเหมือนกับโคทองคำ เราสร้างโคทองคำขึ้นมาใหม่
หญิงถามพระเยซูว่า นมัสการพระเจ้าที่พระวิหารที่ไหน ? ที่เยรูซาเล็ม หรือที่สะมาเรีย
พระเยซูตรัสว่า ไม่สำคัญสถานที่ เพราะตอนนี้อยู่ที่นี่แล้ว
เธอนมัสการด้วยความไม่รู้
การนมัสการพระเจ้าที่แท้จริง –
เยเรมีย์/ อิสยาห์ 29:13 cf มัทธิว 15:8-9 นมัสการเป็นเพียงเปลือกนอก พิธีกรรม การร้องเพลง คนเหล่านี้ยกย่องเราแต่เพียงริมฝีปาก แต่ใจห่างไกลจากเรา
ผมเห็นบางคริสตจักร บอกถึงหลายๆเหตุผลที่เรามาคริสตจักร มาพบเพื่อน มาทำกิจกรรม มาพบความสัมพันธ์ แต่ที่สำคัญที่สุดครับ เรามาพบพระเยซูที่คริสตจักรนะครับ เรามานมัสการพระเยซูที่คริสตจักรร่วมกันครับ นั้นคือเหตุผลที่เรานมัสการพระเจ้าวันอาทิตย์ เมื่อเราพบพระเยซูในคริสตจักรวันอาทิตย์ พระองค์ตรัสกับเราผ่านทุกสิ่งในรอบนมัสการ เราจะไม่กระหายอีก น้ำดำรงชีวิตพบในพระคริสต์อาเมน นะครับ
ให้เรามาหาพระเยซูแล้วบอกว่า “ขอน้ำนั้นให้ดิฉันดื่มบ้าง” น้ำดำรงชีวิตที่พบในพระเยซูคริสต์
แล้วเราจะมีแต่ความรัก ความเมตตา เข้าไปในความสัมพันธ์แต่เพียงอย่างเดียวได้มั้ยครับ แน่นอนพี่น้องครับ พระเจ้าทรงพระคุณ ความรักและ ทรงเมตตาจริงๆ ความรัก ความรัก ความรัก
[Slide 9]
(2) “ออกจากนิสัยบาป” (ข้อ 15-17)
[Slide 10-11]
ยอห์น 4:15-17
“15นางทูลพระองค์ว่า “ท่านเจ้าคะ ขอน้ำนั้นให้ดิฉันเถิด เพื่อดิฉันจะได้ไม่กระหายอีก และจะได้ไม่ต้องมาตักที่นี่” 16พระเยซูตรัสกับนางว่า “ไปเรียกสามีของเธอมาที่นี่” 17นางทูลพระองค์ว่า “ดิฉันไม่มีสามีค่ะ” พระเยซูตรัสกับนางว่า “เธอพูดถูกที่ว่าไม่มีสามี 18เพราะเธอมีสามีถึงห้าคนแล้ว และคนที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่สามีของเธอ เรื่องนี้เธอพูดจริง”
ความรักเมตตา และ ความบริสุทธิ์ --- เป็นพระลักษณะพระเจ้า
[Slide 12]
บ่อน้ำที่หญิงมาทุกวัน เป็น สิ่งที่ทดแทนพระเจ้า เป็นสิ่งที่เราต้องเข้ามาหาตลอดเวลา
บางอย่างที่เรามาดื่มและช่วยให้เราหายกระหายชั่วครั้งชั่วคราว แล้วเราก็กระหายอีก แล้วเราก็กลับมาที่บ่อน้ำนี้อีก เป็นบ่อน้ำที่เราต้องเข้ามาตลอด
พระเยซูตรัสว่า เรียกสามีเธอมา ตอนที่เธอบอกกับพระเยซูว่า ต้องการน้ำดำรงชีวิต แต่ พระเยซูกลับทรงเรียกร้องเธออย่างตรงไปตรงมา ให้เธอตระหนักถึงความบาป และปราถนาให้เธอกลับใจใหม่
หญิงมีสามีมาแล้ว 5 คน พี่น้องครับภาพของการล่วงประเวณี ประพฤติผิดทางเพศ ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าให้ภาพของการนมัสการพระอื่น มีชู้ ครับ ในข้อที่ 1 พระเจ้าปราถนาที่จะมีความสัมพันธ์กับอิสราเอล ที่เป็นแบบสามีและภรรยา อิสราเอล อาณาจักรเหนือกลับไป นมัสการบูชาพระอื่นๆ การล่วงประเวณี เป็นความบาปผิด สะมาเรียต้องกลับใจใหม่ นมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้คือ พระเยซู
[Slide 13]
ความรักเมตตา “เข้า”สู่ความสัมพันธ์กับพระเยซูในขณะเดียวกัน พระเยซูก็เรียกร้องเรา ให้ “ออก”จากความบาปในชีวิตของเราด้วยเช่นกัน
พระเจ้าทรงเป็นความรักเมตตา พระองค์ทรงเสาะแสวงหาเราก่อน ทรงไม่รังเกียจเรา เหมือนที่พระเยซูไม่รังเกียจหญิงสะมาเรีย พระองค์เข้ามานั่งที่บ่อน้ำของเรา และทรงเสนอพระองค์เอง ให้แทนที่บ่อน้ำชั่วคราวในชีวิตของเรา
ในขณะเดียวกัน พระเยซูก็เรียกร้องและทรงเปิดเผยความบาปในชีวิตของเราที่เราต้องกลับใจ ทรงเปิดเผยความบาปของเราอย่างตรงไปตรงมา อิสราเอลนมัสการพระอื่น เล่นชู้ ในขณะที่มีความสัมพัน ธ์กับพระยาห์เวห์ หญิงคนนี่ที่มีศีลธรรมทางเพศที่น่าสงสัยและน่าตั้งคำถามก็เช่นเดียวกัน มีสามีมาแล้ว 5 คน และคนที่อยู่ด้วย อาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศอยู่ด้วยตอนนี้ก็ไม่ใช่สามี แสดงว่าอาจจะไม่ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องก็ได้
บ่อน้ำของหญิงคนนี่ อาจจะความรักที่ฉาบฉวยที่เธอปรารถนาจะยึดไว้ เธออาจจะขาดความรัก ยึดติดในความสัมพันธ์กับคนบางคน แสวงหาความรักที่ไม่เคยได้รับอย่างแท้จริงจากชายหนุ่มที่เธอมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย
พี่น้องที่รักครับ เราต้องกลับใจครับ จากความผิดบาปทางเพศ ความไม่บริสุทธิ์ การเข้าส่วนในความสัมพันธ์กับพระเยซู พระองค์ทรงเรียกร้องให้เรา ออกจากความบาป ครับ
พระคัมภีร์บันทึกว่า หญิงคนนี้ วางถังน้ำลง แล้วเข้าไปในเมือง
หญิงทิ้งถังน้ำ ทิ้งบ่อน้ำ ไปเลย ไม่เอาน้ำนั้นแล้ว ไม่เอาบ่อน้ำแล้วง เธอได้พระเยซูคริสต์แล้ว
เธอละทิ้งบ่อน้ำนั้นทันที มีอะไรมั้ยครับ ที่ในเวลานี้ที่เราฟังเทศนาอยู่ พระเยซูทรงเปิดเผยให้เราต้องทิ้ง เราต้องทิ้งบางอย่าง เมื่อเรามีความเชื่อ เมื่อเราเข้าส่วนในความสัมพันธ์กับพระเยซู
พระคัมภีร์บันทึกว่า หญิงคนนี้ วางถังน้ำลง แล้วเข้าไปในเมือง เธอเข้าไปในเมืองทำไมครับ ไปประกาศครับ ไปเล่าว่าเธอพบพระเมสสิยาห์แล้ว พระผู้ไถ่ในชีวิตของเธอ พระผู้ไถ่ที่เสนอพระองค์เอง เข้าไปในความสัมพันธ์กับเธอ พระเยซู จะทรงเป็นสามีคนสุดท้ายในชีวิตของเธอ ที่เธอไม่ต้องกล้บที่บ่อน้ำเดิมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บ่อน้ำที่ดับกระหายเธอได้แต่เพียงชั่วครั้งชัวคราว เธอพบน้ำดำรงชีวิตแล้ว เธอตื่นเต้นมาก จนเธอต้องรีบวิ่งกลับไปประกาศข่าวดีนี้กับคนในเมือง คนในเมืองที่ครั้งหนึ่งเธอหนีออกมา ไม่ต้องการเข้าไป เธอโดดเดี่ยวตัวเอง พบพระเยซู เธอเปลี่ยนไป เธอไม่ต้องโดดเดี่ยวแล้ว พระเยซูอยู่กับเธอ เธอไม่ต้องโดดเดี่ยว เธอกล้ากลับไปประกาศข่าวดี นี้
นำไปสู่ข้อที่สามครับ กระบวนการสุดท้ายครับ ผลของการชำระให้ชอบธรรมด้วยความเชื่อ นำเราไปสู่ชีวิตแห่งการประกาศข่าวดี
[Slide 14]
(3) “เข้าสู่พันธกิจประกาศข่าวประเสริฐ” (ข้อ 28-30, 34-36, 42)
[Slide 15-16-17-18]
ยอห์น 4: 28-30
“28ส่วนหญิงคนนั้นก็ทิ้งหม้อน้ำไว้และเข้าไปในเมืองบอกพวกชาวบ้านว่า 29“มานี่ มาดูท่านผู้หนึ่งที่เล่าถึงสิ่งสารพัดที่ฉันเคยทำ ท่านผู้นี้จะเป็นพระคริสต์ได้ไหม?” 30คนทั้งหลายจึงพากันออกจากเมืองไปหาพระองค์”
ยอห์น 4:34-36
“34พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของผู้ที่ทรงใช้เรามาและทำให้งานของพระองค์สำเร็จ 35พวกท่านบอกว่าอีกสี่เดือนจะถึงฤดูเกี่ยวข้าวแล้วไม่ใช่หรือ? ส่วนเราบอกพวกท่านว่า เงยหน้าขึ้นดูนาเถิด ทุ่งนาเหลืองอร่ามและถึงเวลาเกี่ยวแล้ว 36คนเกี่ยวกำลังได้รับค่าจ้างและกำลังรวบรวมพืชผลไว้สำหรับชีวิตนิรันดร์ เพื่อทั้งคนหว่านและคนเกี่ยวจะได้ชื่นชมยินดีด้วยกัน”
ยอห์น 4: 42
“42พวกเขาพูดกับหญิงคนนั้นว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ที่เราเชื่อนั้นไม่ใช่เพราะคำพูดของเจ้า แต่เพราะเราได้ยินเอง และเรารู้ว่าท่านผู้นี้เป็นพระผู้ช่วยโลกให้รอดที่แท้จริง”
[Slide 19]
พระเยซูตรัสกับสาวกที่ไปซื้ออาหารมาให้อาจารย์ แต่พระเยซูกลับตรัสกับสาวกว่า เรามีอาหารอื่นที่ท่านไม่รู้จัก ไม่เข้าใจ ความเข้าใจใหม่จากความเข้าใจผิด
อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา
อาหารที่ทำให้อิ่ม สำหรับชาวยิวคือกระทำตามธรรมบัญญัติ
อาหารที่ทำให้อิ่ม สำหรับ พระเยซูคือ การทำตามพระประสงค์น้ำพระทัยพระเจ้า ผู้ทรงส่งเรามา ปฎิบัติภาระกิจให้สำเร็จลุล่วง
พระประสงค์ของพระบิดาคือ
ยอห์น 3:16 ในบทที่แล้วครับ ที่ยอห์นสรุปไว้เมื่อพระเยซูทรงสนทนากับนิโคเดมัส
“16พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
พระเยซูเสด็จมาที่นี่อย่างมีวัตถุประสงค์ครับ เพื่อชาวสะมาเรียที่หมู่บ้านนี้จะได้รับความรอด
ชาวสะมาเรียทั้งเมือง คือทุ่งนาเหลืองอร่ามที่พร้อมแล้วสำหรับการเก็บเกี่ยว
หัวใจของพระเจ้าคือ ประกาศข่าวดี นำหญิงชาวสะมาเรีย และชาวสะมาเรีย มาพบพระคริสต์ นมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้
[Slide 20]
เมื่อเราเข้าส่วนในความสัมพันธ์พระเยซูคริสต์ ออกจากความบาป และนำเราสู่การเป็นสาวกที่แท้จริง กระทำภาระกิจที่พระเจ้ามอบให้เราในโลกนี้ คือการประกาศแผ่นดินพระเจ้า ประกาศข่าวประเสริฐ
ความรักเมตตาของพระเจ้า จะทำให้เรากลับไปประกาศข่าวดี ทำพันธกิจพระเจ้า
เธอวางถังน้ำ วางนิสัยเก่าลง และไปเป็นนักประกาศ ให้เรารู้ว่า เราพบคนที่รู้เรื่องราวของเราเป็นอย่างดี
ได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิต
เล่าเรื่องพระเยซู เมื่อเค้ามาพบเรา ให้เหมือนกับเค้ามาพบพระเยซูที่บ่อน้ำ หญิงชาวสะมาเรีย
พระเยซูเป็นพระผู้ไถ่ของทุกคน ทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะชาวสะมาเรีย
ผลของการชำระให้มีชีวิตที่ชอบธรรมด้วยความเชื่อ เป็นกระบวนการ (1) เข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์ ละทิ้งบ่อน้ำที่ดับกระหายเพียงชั่วคราวในโลกนี้ ที่เราพึ่งพิงอยู่ หันมาพึ่งพิงพระเยซูคริสต์ ทรงเป็นน้ำดำรงชีวิตที่เราจะไม่ต้องกระหายอีก ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวในโลกจากบ่อน้ำในโลก เทีบบไม่ได้เลย กับความสุขนิรันดร์ที่พบในพระคริสต์เมื่อเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ และ (2) ประการที่สอง ครับ พระเยซูเผชิญหน้ากับเราด้วยความบาปในชีวิตของเราที่เราต้องละทิ้ง เมื่ออยู่ในความสัมพันธ์กับพระองค์ เป็นไปไม่ได้ครับที่เราอยู่ในความสัมพันธ์กับพระคริสต์แล้วเรายังกอดรัดความบาปไว้ในชีวิตของเรา และ (3) กระบวนการที่สามครับ นำเราเข้าสู่พันธกิจการประกาศข่าวดี เพราะทำตามหัวใจ น้ำพระทัยพระเยซู ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ
คำถามสำหรับกลุ่มย่อยเพื่อการพูดคุยกัน:
(1) อะไรคือบ่อน้ำในชีวิตของเรา ที่เราต้องละทิ้ง ?
(2) “พระคุณความรักจากพระเจ้า” กับ “ชีวิตที่บริสุทธิ์” มีความขัดแย้งกันหรือไม่ อย่างไร แบ่งปัน
(3) เราสามารถอยู่ในความสัมพันธ์กับพระเจ้า โดยไม่ประกาศข่าวประเสริฐ ได้หรือไม่? คิดอย่างไร
Related Media
See more
Related Sermons
See more
Earn an accredited degree from Redemption Seminary with Logos.